ดูหน้า
ดูหน้า
BIM100 ประสบการณ์ผู้ใช้กับปัญหาสุขภาพมะเร็ง
BIM100 ประสบการณ์ผู้ใช้กับปัญหาสุขภาพมะเร็ง
ผลงานวิจัย BIM100 กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวเพชรฆาต ที่สามารถกัดกินเซลล์มะเร็งทั่วทั้งร่างกายได้จากผลการทดลองทั้งกับสัตว์ และกับคน จนเป็นที่แน่ใจแล้วว่าสามารถกระตุ้นร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันที่สมดุล และกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งผิดปกติทั้งจากภายนอก และภายใน ร่างกายจึงกลายเป็นหมอที่ดีที่สุด
หากใครเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายคงคิดว่าชีวิตนี้แทบไม่มีหวัง คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การใช้เวลาที่เหลืออยู่กับการตั้งรับความ "เจ็บป่วย" รวมถึง "ความตาย" ที่กำลังย่างกรายเข้ามาด้วยสติ แต่นั่นคือในอดีตยุคนี้วิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่สร้างทางเลือกแห่งความสุขในการมีชีวิตอยู่อย่างมี "คุณภาพ" ให้กับผู้ป่วยมะเร็งได้สำเร็จและที่น่าทึ่งก็คือความสำเร็จนี้เป็นฝีมือ "นักวิจัยไทย" (นักวิจัย BIM100)และเป็นครั้งแรกของโลกกับการคิดค้นสูตรสารธรรมชาติจากมังคุดช่วยต้านมะเร็ง เรื่องนี้ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย และกรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า "สูตรสารธรรมชาติ" หรือ "Balancing lmmunity - BIM" BIM100 เป็นผลงานความร่วมมือระหว่าง ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) กับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ และ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้นำเอาสารสกัด GM-1 จากเปลือกมังคุดที่คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ศึกษาไว้เมื่อ 38 ปีที่แล้วมาพัฒนาต่อยอด โดย GM-1 มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะราคาแพง โดยลดการอักเสบได้เป็น 3 เท่าของแอสไพริน มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอี และสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อนำมารวมกับสารสกัดจาก ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง ใบบัวบก และเนื้อมังคุด ก็จะได้สารอาหารเสริมชนิดที่ช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมดุลจนสามารถต้านมะเร็งได้ ซึ่งราชินีผลไม้ไทยอย่าง "มังคุด" มีคุณประโยชน์ที่มนุษยชาติต้องทึ่ง จากผลการทดลองในห้องแลปของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มช. ระบุชัดว่า สูตรสารธรรมชาติ BIM/ BIM100 ที่ผสมสารสกัด GM-1 จากมังคุดที่ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยคิดค้นขึ้นช่วยสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Th1 ที่ทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทานในการกำจัดโรคในเซลล์อาทิ เซลล์มะเร็ง เชื้อรา แบคทีเรีย รวมถึงไวรัส และเม็ดเลือดขาวชนิด Th17 ภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคนอกเซลล์หรือแม้แต่การเกิดเซลล์มะเร็งตามที่นัดภูมิคุ้มกันวิทยาได้ศึกษาไว้โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ศ.ดร.พิเชษฐ์ เล่าต่อว่า สวนน้ำเนื้อและเมล็ดมังคุดสกัดเข้มข้น 80% ที่ทางศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย คิดค้นมา ยังทำหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Treg มีฤทธิ์ช่วยจัดระเบียบให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันอย่างสมดุล มีหน้าที่ยับยั้ง ไม่ให้เม็ดเลือดขาวชนิด Th1 และ Th17 ที่อาจก่อให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเองหรือเป็นโรคภูมิแพ้มีมากเกินไป ซึ่งหวังกันว่านวัตกรรมนี้จะเป็นทางเลือกให้ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากหลากหลายปัจจัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
-สามารถดูแลภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายโดยตรง เซลล์มะเร็งไม่สามารถขวางกั้นได้
-มีกลไกในการจัดการกับเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการสังเคราะห์ของเยื้อหุ้มเซลล์มะเร็งทําให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอ
-GM1 ในมังคุดฆ่าเซลล์มะเร็งได้
-น้ำมังคุดBIM มีพฤกษเคมีที่สําคัญชื่อว่า "โพลีแซคคาไรด์" (Polysaccharide)นําส่งไปยังเซลล์ หลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อ เซลล์ คุ้มกันตัวอื่นๆ จะช่วยกระตุ้นวงจรการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน ในร่างกาย เพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทําหน้าที่ทําลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-น้ำมังคุดBIM มี "อัลฟาไฮดรอกซินเอซิก" สามารถไปจับกับธาตุเหล็กที่มะเร็งใช้ในการเจริญเติบโต มะเร็งจะตาย ผลงานวิจัย BIM100 ฆ่ามะเร็ง และป้องกันเซลล์ใหม่ให้เป็นเซลล์ดีด้วย ปกป้องได้แม้เเต่เซลล์เล็ก ที่หลงไปเป็นมะเร็ง เครื่องมือทางการแพทย์ต้องรอให้มะเร็งมีประมาณระดับหนึ่งจึงจะตรวจพบ ซึ่งก็เป็นระยะที่เริ่มรุนแรง หรืออาจจะรุนแรงจนแก้ไม่ทันแล้ว
แนะนํา ผลงานวิจัย BIM100 ตามปริมาณที่ ดร.ท่านวิจัย และสรุปมาให้ สามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ จากการทําให้ร่างกายมี ภูมิคุ้มกันที่สมดุลที่ น้ำมังคุดBIM สร้างให้ร่างกายเป็นหมอให้กับตัวเองได้นั้นเอง
ผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ว่าจะระยะใด และเป็นส่วนไหนของร่างกาย จําเป็นที่จะต้อง กําจัด หรือฆ่าเซลล์มะเร็ง และนําเซลล์มะเร็งที่ถูกฆ่าแล้วออกจากร่างกาย แล้วยังต้องทําให้เซลล์ที่เกิดขึ้นใหม่ เป็นเซลล์ดี...ซึ่งการกําจัด+นําออก+กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของร่างกายนั้น ทําได้ทั้งสามกระบวนการด้วยการทํางานร่วมด้วยช่วยกันของ แคปซูลสีเขียว + น้ำมังคุดBIM
ผลงานวิจัย BIM100 ใช้ร่วมกันกับการรักษาทางการแพทย์ได้ทุกขั้นตอน และข้อสังเกตุแบบมีนัยสําคัญก็คือ มีผู้ที่ใช้ผลงานวิจัย BIM100 อย่างเดียวแล้วไม่ให้คีโม รังษีรักษา ก็สามารถปลอดมะเร็งได้เช่นกัน
BIM100 ประสบการณ์ผู้ใช้ผลงานวิจัยกับปัญหาสุขภาพมะเร็ง
คุณสุเทพ แหวนทอง
ผู้เคยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลามไปกระดูกสันหลัง
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
เริ่มจากร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่กระปริดกระปรอย บางครั้งมีเลือดปนออกมา เบื่ออาหาร ปวดเมื่อย ตามข้อ ภายใน 2 เดือนน้ำหนักลดลงไป 20 ก.ก. เมื่อต้นปี 54 ไปตรวจร่างกายหลายครั้งใช้เวลาอยู่ 2 เดือน จนกระทั่งพบว่า ดัชนีบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) สูงมากอยู่ที่ 100 mg/ml (คนปกติต้องน้อยกว่า 4.0 ng/ml) จึงตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมาก ไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก แพทย์จึงทําการผ่าตัดมะเร็งออกไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค.54 และเริ่มเดินไม่ได้ในเย็นวันนั้น ต่อมาตรวจ MRI พบว่ามะเร็งเริ่มลามไปกระดูกสันหลัง และอาจเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพราะมะเร็งลามไปทําลายกระดูก สันหลังทําให้ทรุดไปทับเส้นประสาทที่หลัง หลังจากที่แผลผ่าตัดหายดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 จึงทําการฉายแสงติดต่อกัน 10 วัน
ระหว่างที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นอัมพาตครึ่งซีก ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจะกระดิกกระเดี้ยวตัวไม่ได้ เดินไม่ได้ เริ่ม *BIM ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.54 พอเดือน มี.ค.55(ประมาณ 11 เดือน) ค่า PSA อยู่ที่ 0.82 ng/ml สุขภาพโดยรวมทั้งหมดดีขึ้นถึง 70% วันที่ 6 ส.ค.55 (ประมาณ 16 เดือน) สุขภาพแข็งแรงดี คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมที่เริ่มรักษาครั้งแรกเดินไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ครับ เข้าห้องน้ำ ทานอาหารเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้เดือดร้อน ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินระยะใกล้ได้ สามารถนั่งนานๆ ได้
-เดือนเม.ย 56 ตลอด 2 ปีที่ *BIM ค่า PSA อยู่ที่ 1 กว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติมาตลอด และผลเอกซเรย์กระดูกสันหลังพบว่าสมบูรณ์ดี บิดตัวได้ตามปกติ ถ้าเดินภายในบ้านหรือระยะทางใกล้แทบไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้วครับ (น้ำมังคุด 1 ซอง, สีเขียว กลางวัน 3 แคปซูล เย็น 3 แคปซูล และก่อนนอน 3 แคปซูล)
*BIM คือ Balancing Immunity ภูมิคุ้มกันที่สมดุล” *คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และระยะเวลาที่ได้ผลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
คุณสุภัสสรา เอมเอก
ผู้เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองลามไปกระดูกต้นขา
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
เป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองระยะ 4 ได้รับการรักษาด้วยเคมีบําบัด 8 คอร์ส ต่อมาลุกลามไปที่กระดูกขาขวา ทําให้กระดูก ขาหัก มีรอยดําที่กระดูกกะโหลกศีรษะ, มีก้อนที่ไตด้วย แต่ไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อตรวจจึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่เป็นก้อนมะเร็งหรือไม่ แต่ก้อนนี้หายไปหลังให้เคมีบําบัด ต่อมารักษาอาการที่ขาขวาโดยครั้งที่หนึ่งด้วยการผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาขวา และฉายแสงตรง บริเวณที่ผ่าตัดขาเพื่อกระตุ้นให้กระดูกงอก แต่กลับไม่งอก ยังคงมีช่องว่างของกระดูกอยู่ ต่อมาครั้งที่สองจึงผ่าตัดกระดูก ขาขวาอีกครั้งเพื่อปลูกถ่ายกระดูก แต่กลับไม่ประสบความสําเร็จ นั่นก็คือกระดูกที่มาปลูกใหม่ยังไม่ติดกัน จึงมีอาการปวด ขาขวา ยิ่งลงน้ำหนักตอนเดินยิ่งปวดร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย เดินโดยอาศัยไม้ค้ำยัน และมีความวิตกกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ 1. ถึงแม้ว่ามีโอกาสหาย 90% แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 50% 2. กําลังวางแผนที่จะผ่าตัดที่ขาซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3
เพื่อที่จะใส่วัสดุประเภทซีเมนต์เพื่อปิดช่องว่างของกระดูก ตั้งแต่ตุลาคม 53-กุมภาพันธ์ 54 ดูแลตัวเองตามแนวการดีท็อกซ์ ด้วยอาหาร และนั่งสมาธิ จนมีเพื่อนที่เป็นมะเร็งตับที่ *BIM แล้วผลตรวจสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ มาแนะนําให้เริ่ม *BIM เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 54 พอได้ 2 สัปดาห์ สังเกตเห็นว่าผิวพรรณมีการเปลี่ยนแปลง รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย ไม่เพลีย นอนหลับดี เมื่อครบ 3 เดือนเอกซเรย์กระดูกขาตรงที่มีช่องว่าง เริ่มมีเงาให้เห็นรางๆ แสดงว่าเริ่มมีกระดูกงอก พอครบ 6 เดือน เอกซเรย์กระดูกขา กระดูกงอกเพิ่มกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ครบ 1 ปี (15 พ.ค.55) ผลการเอกซเรย์กระดูกขาชี้ว่า กระดูกติดดีแล้ว ไม่มีช่องว่าง ซึ่งก็หมายความว่าเซลล์มะเร็งที่กระดูกถูกยับยั้งไปแล้ว กระดูกจึงสามารถสร้างเชื่อมติดกันได้ จนแพทย์ขยายเวลานัดเพื่อติดตามเรื่องกระดูกเป็นปีละ 1 ครั้ง และน้ำหนักเพิ่มขึ้น 3 ก.ก. (จาก 51 เป็น 54 ก.ก.) อาการปวดขาลดลง เดินได้เกือบ เหมือนเดิม ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว แม้ว่าเดินกะเผลกอยู่บ้าง มีปวดขาบ้างคงเกิดจากโลหะที่อยู่ข้างในอาจเสียดสี หรือทับเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็พอใจแล้วค่ะ ตลอดเวลาที่ *BIM ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด รู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้น สดชื่น ผิวพรรณดีขึ้นมีน้ำมีนวล ดูไม่เหมือนคนป่วยสักเท่าไหร่ ไม่มีความ วิตกกังวลว่าจะกลับมาเป็นซ้ำ เพราะเชื่อมั่น “BIM ภูมิคุ้มกันที่สมดุล ถ้านับว่าตอนที่เริ่มรักษาเป็นศูนย์ ในวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเป็น 98% ค่ะ (น้ำมังคุด 1 ซอง, สีเหลือง กลางวัน 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล และก่อนนอน 2 แคปซูล)
คุณอ้อ มะย่น
ผู้เคยเป็นมะเร็งเต้านมมานานกว่า 10 ปี (ปี 2550)
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
ผู้เคยเป็นมะเร็งเต้านมมานานกว่า 10 ปี (ปี 2550) ปฏิเสธการรักษาด้วยเคมีบำบัดเพราะกลัวผลข้างเคียง จนมะเร็งได้ลุกลามถึงระยะสุดท้าย เต้านมเพิ่มขนาดขึ้นจนระเบิดน้ำเหลืองและเลือดไหลออกจากเต้านมตลอดเวลา มีอาการไอตลอดเวลา อ่อนเพลียจนไม่สามารถลุกเดินได้ รับประทานอาหารไม่ได้เนื่องจากมะเร็งลุกลามมากแล้ว แต่หลังจากตัดสินใจใช้นวัตกรรม APCO /ผลงานวิจัย BIM100 (งานวิจัยของศูนย์วิจัยมังคุดไทย MRCT) ในปี 2557 ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียง 5 เดือนก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี ก็ตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งอีกเลย ค่าตับและไตก็ปกติ - วันที่ 4 เมษายน 2559 CA 15-3 = 29.3 U/ml - วันที่ 1 มกราคม 2560 CA 15-3 = 23.8 U/ml ปัจจุบันใช้นวัตกรรม APCO/ผลงานวิจัย BIM100 มากว่า 3 ปีแล้ว
*** คนปกติค่าบ่งชี้มะเร็งเต้านม CA 15-3 ต้องไม่เกิน 31.3 U/ml
คุณบรรจง เคซีย์
ผู้เคยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
คุณอนุศิษฏ์ ทองคำ
ผู้เคยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
ต้นปี 56 เริ่มมีอาการท้องผูก และท้องเสียบ้างเล็กน้อย ต่อมาในเดือน ก.ค. ปวดท้องมากเหมือนมีอะไรจับบีบ ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อนจนจะเป็นลม ทานยาอะไรก็ไม่หาย ปวดตลอดเวลาทั้งคืน ไปตรวจผลตรวจระบุว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ขั้นที่ 3 พบเนื้อร้ายตามความยาวของลำไส้ใหญ่ 9 ซ.ม. แรกๆ ไม่เชื่อว่าเป็นมะเร็ง แต่ผู้เชี่ยวชาญ 3-4 ท่านต่างลงความเห็นตรงกัน เจ้านายไปหาข้อมูลในเน็ทจนมารู้จักนวัตกรรม APCO/ผลงานวิจัย BIM100*จึงเริ่มใช้ทันที ระหว่างพักเพื่อรอผ่าตัดพบว่ากลางคืนนอนหลับสบายดีจนภรรยาและลูกเฝ้ายังแปลก ใจ ต่างกับแต่ก่อนที่จะเจ็บปวดจนนอนไม่หลับต้องเพิ่มยาแก้ปวดขึ้นเรื่อยๆ และยังขับถ่ายดีขึ้น สังเกตเห็นสิ่งที่ถ่ายออกมาเหมือนมีเศษเนื้อเป็นก้อน ชิ้นสีขาวๆออกมาด้วย และขับถ่ายเศษเนื้อออกมาแบบนี้อีก 2-3 วัน ผมได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 56 ผมเข้ารับการผ่าตัดอยู่ 2 ช.ม. ผู้เชี่ยวชาญเล่าให้ฟังว่าควานหาเนื้อร้ายที่ลำไส้ใหญ่ไม่เจอ ทั้งพลิกทั้งดึงออกมาดูก็ไม่พบ ที่ตับ และม้ามก็ไม่พบ จึงได้แต่ผ่าตัดเอาไส้ติ่ง และส่วนลำไส้ใหญ่ส่วนที่มีรอยพรุนออกไป 40 ซ.ม.แทน หลังจากนั้นผมไม่ต้องทำเคมีบำบัดไม่ต้องฉายแสง เพราะการผ่าตัดหาเนื้อร้ายไม่พบ ผมแอบคิดว่าอาจเป็นเพราะเนื้อร้ายนี้หลุดออกไปเองก็ได้ หลังจากนอนพักฟื้นอยู่ 1 เดือนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดูแลอาหารด้วยการทานแต่ผัก กับปลา และต้องขอขอบคุณเจ้านายมากแนะนำนวัตกรรม APCO/ผลงานวิจัย BIM100 มาให้ ได้รับการนัดตรวจติดตามผลอยู่ 2 ปีจนในที่สุดเมื่อปี 59 ปัจจุบันไม่นัดแล้วครับ (ไม่ต้องนัดมา 2 ปีแล้ว) ปัจจุบันผมทำงานมากกว่าเดิม และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คุณประกายรัตน์ นาคเงิน
ผู้เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
เมื่อปี 57 คลำพบก้อนขนาดเท่าเม็ดบัวลอยตรงคอด้านขวา ต่อมาก้อนนี้โตขึ้นอยู่ใต้คางดันใบหน้าจนโย้ทำให้หน้าดูผิดรูป และก้อนมีหนองเป็นลักษณะคล้ายฝี ผลปรากฎว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และต้องรักษาด้วยการฉายแสง 33 ครั้ง จึงเริ่มหาข้อมูลว่าจะมีอะไรเพื่อช่วยดูแลสุขภาพเพิ่มเติมก่อนที่จะฉายแสง ได้บ้าง จนมารู้จักกับนวัตกรรม APCO/ผลงานวิจัย BIM100 หลังจากใช้เกือบ 1 เดือน ถึงเริ่มฉายแสงบริเวณคอและปาก เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ฉายแสงพร้อมๆ กันกลับพบว่าผิวของเราตรงบริเวณที่โดนฉายแสงไม่เหี่ยวไม่ดำ แผลไม่เน่าเฟะ ลิ้น และริมฝีปากไม่แตก รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย และการรับรู้รสอาหารยังเฝื่อนไปบ้าง แต่ไม่เบื่ออาหาร และกลืนอาหารได้ พอฉายแสงได้ 11 ครั้งผลตรวจดีขึ้นมากเป็นที่ประหลาดใจของผู้ที่ทำการรักษาจึงไม่มีความ จำเป็นต้องฉายแสงที่เหลืออีก 22 ครั้ง จึงปฏิเสธการรักษาด้วยเคมีบำบัดด้วยตนเอง ต่อมาทุกๆ 4 เดือนมีนัดตรวจผลเลือด คลำหาก้อนตามคอ รักแร้ เต้านม ท้อง และมีการ X-rays ปอดเพิ่มเติมเมื่อครบ 8 เดือนผลก็เป็นปกติ - เดือน มี.ค. 60 ผลตรวจยังคงปกติ ไม่พบเซลล์มะเร็งค่ะ - เดือนม.ค. 61 ผลตรวจปกติ และไม่ต้องนัดติดตามอาการแล้วค่ะ
คุณกัญญ์ดริน ธนทวีประเสริฐ
ผู้เคยเป็นมะเร็งปากมดลูกลามไปกระดูกเชิงกราน
มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง และให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังใช้ ผลงานวิจัย BIM100
22 ธันวาคม 2562
ผู้ชม 3967 ครั้ง